Tuesday 31 August 2010
Monday 30 August 2010
Sunday 29 August 2010
Friday 27 August 2010
Thursday 26 August 2010
My shoot Today That I love
Wednesday 25 August 2010
Tuesday 24 August 2010
Monday 23 August 2010
Multi remote desktop Windows XP
If you have ever used a real remote computer system like Citrix, then you have probably been craving multiple Remote Desktop sessions since you first fired up Windows XP Professional and/or Media Center Edition. Here is a HACK (translated: USE AT YOUR OWN RISK), to enable multiple Remote Desktop sessions on your XP Pro or MCE 2005 box:
NOTE: You will have to have knowledge of the Windows operating system and more specifically the Windows Registry. If you have no experience with the registry, then I would recommend you find someone who does or leave these alone. I do not make any kind of warranty that this will work for you or your friends. This is provided for entertainment purposes only. Don't call me if your computer stops working. Got it?
- Print these directions so that you have them to work from.
- Restart your computer in Safe Mode – Follow this link to learn how to restart Windows XP in Safe Mode
- Turn off/disable Remote Desktop Connection (RDC) and Terminal Services
- Right click My Computer
- Select Properties
- Click on the Remote tab at the top of the window
- UNCHECK the box next to, "Allow users to connect remotely to this computer"
- Click OK
- Go to Start -> Control Panel -> Administrative Tools -> Services
- Find Terminal Services in the list
- Right click on Terminal Services and click Properties
- In the Startup Type box, select Disabled
- Click OK to close the window
- Here is a copy of the Terminal Services DLL – Save it to your Desktop or other suitable location
- Using a file manager like Windows Explorer open C:\Windows\system32\dllcache
- Rename the file termsrv.dll to termsrv_dll.bak or whatever you would like.
- Copy the downloaded termsrv.dll file (the one you just downloaded from the web) to C:\Windows\system32\dllcache
- Open the C:\Windows\system32 folder
- Delete the file termsrv.dll in C:\Windows\system32
Saturday 21 August 2010
Friday 20 August 2010
Thailand Hotel and Resorts: Working on Koh Samui: 6 Chefs 6 Courses Menu - fin...
Wednesday 18 August 2010
Day18 Food&Good 2010
Day18 Food&Good 2010 |
น่ารักไหม มีอีกซัก 4-5 รูปนะครับ ถ่ายมาน้อยไม่มีมือเลยถือแต่ของกิน
Sunday 15 August 2010
Saturday 14 August 2010
ศาลาเขาใหญ่ Sala Khaoyai บูติกโฮเต็ลเอ็กซ์คลูซีฟกลางเขาใหญ่
จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ ที่ "คุณทศ จิราธิวัฒน์" ฝันอยากสร้างบ้านพักตากอากาศสักหลังที่ ปากช่อง-เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา ไว้สำหรับพักผ่อนส่วนตัวในครอบครัว เพราะอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี แถมยังขับรถไม่ไกลนักจากกรุงเทพฯ แต่พอเดินทางมาเห็นโลเกชั่นจริงๆของดินแดนสวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย ซีอีโอใหญ่แห่งเครือเซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (CRC) ก็ตกตะลึงกับความสวยงามน่าทึ่งของทัศนียภาพ แห่งขุนเขา สายหมอก และสีสันงดงามแปลกตายามพระอาทิตย์อัศดง จนต้องเปลี่ยนใจเพิ่มสเกลขนาดความฝันจากคฤหาสน์หลังใหญ่ ขยายไปเป็นบูติก โฮเต็ลสุดฮิปบนเนินเขา ที่มีดีไซน์โดดเด่น ล้ำเทรนด์ เพื่อแบ่งปันความประทับใจแก่ผู้คนในวงกว้าง
ภายใต้งบกว่า 100 ล้านบาท พื้นที่เนินเขาเกือบ 100 ไร่ บริเวณ ต.วังกะทะ อ.ปากช่อง ได้ถูกเนรมิตให้เป็นบูติก โฮเต็ลเอ็กซ์คลูซีฟ ขนาด 7 ห้องพัก ตามความฝันของคุณทศ และภรรยา คุณตุ๊ก-ศุกตา จิราธิวัฒน์ โดยใช้เวลาก่อสร้างจนแล้ว เสร็จเพียงปีเศษเท่านั้น และตั้งชื่อว่า sala khaoyai resort เพื่อให้คล้องจองกับโรงแรมอื่นๆในเครือศาลา รีสอร์ตส์ แอนด์ สปาส์ เพิ่งเริ่มเปิดให้บริการในช่วงปลายปีที่ผ่านมา
ถึงแม้ที่ตั้งจะอยู่ลึกกว่ารีสอร์ตทั่ว ไปในเขาใหญ่ เลยโครงการสุดหรูทอสคานา วัลเลย์ เข้าไปหลายสิบกิโล แต่รับประกันค่ะว่า เมื่อขับรถไปถึงที่หมายจะรู้สึกหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง เพราะได้ตื่นตาตื่นใจกับทัศนียภาพงดงามแปลกตาของศาลา เขาใหญ่ รีสอร์ต ซึ่งตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขาสูง มีเพียงหินธรรมชาติ ปูเป็นบันไดทางเดินเชื่อมต่อขึ้นไปจนถึงตัวโรงแรม และจากยอดสูงสุดของบูติก โฮเต็ลแห่งนี้ ยังสามารถ มองเห็นทิวทัศน์ของอุทยาน แห่งชาติเขาใหญ่ตรงหน้าได้แบบพาโนรามา...แจ๋วไหมล่ะคะ
"คุณ ตุ๊ก" เล่าว่า แม้จะครอบคลุมพื้นที่เกือบ 100 ไร่ แต่ครึ่งหนึ่งแบ่งไว้สำหรับลงต้นไม้เพื่อเพิ่มความ ร่มรื่นเขียวขจี มีต้นไม้สารพัด ทั้งต้นสัก มะฮอกกานี มอคค่า ต้นตะเคียนทอง และต้นยางนา โดยเป็นไอเดียของ "คุณทศ" ที่ต้องการบรรยากาศแบบเปิดโล่งให้เห็นวิวทิวทัศน์ทุกองศา จึงไม่มีสิ่งก่อสร้างใหญ่ๆ มาบดบังสายตา มองไปทางไหนจะเห็นแต่ต้นไม้กับขุนเขา ดูกลมกลืนกับสภาพแวดล้อมธรรมชาติอย่างแท้จริง
เมื่อขึ้นไปถึงยอดสูงสุด ซึ่งเป็นที่ตั้งของบูติก โฮเต็ล บอกได้คำเดียวว่า เหมือนหลุดเข้าไปอยู่อีกโลก เพราะรูปแบบการตกแต่งแปลกใหม่ไม่ซ้ำใครเลยจริงๆ จนยากจะให้คำจำกัดความเฉพาะเจาะจง ภาพรวมดูโมเดิร์นสะอาดตาในโทนสีขาว ดำ เทา และครีม ขณะเดียวกัน ก็ตั้งใจออกแบบให้กลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกับสภาพแวดล้อมที่สุด เพื่ออวดความสวยงามของธรรมชาติรอบด้าน
จุดเด่นสะดุดตาที่สุดเห็นจะเป็นสระว่ายน้ำรูปไข่ขนาดใหญ่ตรงกลางลาน ซึ่งตั้งใจออกแบบให้ ลอยเด่นอยู่บนท็อปสูงสุดของภูเขา เปิดโล่งเห็นวิวทุกองศา ส่วนบริเวณพูล วิลล่า และพูล วิลล่า สวีท ซึ่งมีอยู่แบบละเพียง 2 ห้อง ก็ลงทุนสร้างโดยฝังบ้านเข้าไปในภูเขา มีสระว่ายน้ำส่วนตัวอยู่บนรูฟท็อป และ เตาผิงเพิ่มความอบอุ่น เวลาเดินเข้าที่พักทำให้เกิดความรู้สึกเหมือนเดินอยู่บนเนินเขาสูง แล้วค่อยๆไต่ เข้าไปนอนในถ้ำ คล้ายๆกับบ้านของมนุษย์หินฟลินต์สโตนส์ แต่ได้ฟีลลิ่งสดใหม่ ครบครันไปด้วยสิ่งอำนวย ความสะดวกทันสมัย
ในส่วนของศาลา ฮิลท็อป เรสเตอรองต์ แอนด์ บาร์ ใช้ไม้เป็นวัสดุหลักในการตกแต่งเพื่อให้เบลนด์ เข้ากับธรรมชาติมากที่สุด มีบริการอาหารหลากหลายสไตล์ รวมถึงเมนูจานโปรดของครอบครัวจิราธิวัฒน์ ทุกจานปรุงจากวัตถุดิบชั้นดี และผักออแกนิค ที่ปลูก เองในพื้นที่ของโรงแรม...ใครที่ชอบบรรยากาศโรแมนติก อิงแอบขุนเขา และเบื่อความพลุกพล่านวุ่นวาย น่าจะหลงรัก sala khaoyai resort ตั้งแต่แรกพบ ลมหนาว เริ่มมาเยือนอีกครั้งแล้ว ติดต่อจองห้องพักได้ ที่โทร.044-760-500 หรือ 0-2231-2588 และคลิก เข้าไปดูรายละเอียดที่ www.salakhaoyai.com
เริงร่าในบ้านหลังงาม
21 กันยายน 2549 17:06 น.
๐ ปริยา เหล่าวิวัฒน์ : เรื่อง/กุลพันธ์ ศิริพิมพ์อัมพร : ภาพ
อาจมีผู้หญิงบางคน คิดว่าการแต่งงานเป็นฉากสุดท้ายของการใช้ชีวิตคู่ แต่แท้จริงแล้วนั่นเป็นเพียงจุดเริ่มต้นต่างหาก ซึ่ง ศุกตา จิราธิวัฒน์ กรรมการบริหาร โรงแรมศาลาสมุย และโรงแรมศิลา เอวาซอน ไฮด์ แอนด์สปา เกาะสมุย เป็นแบบอย่างหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นว่า เมื่อยอมรับการสวมชุดเจ้าสาวก็เท่ากับสวมชุดแม่บ้านในคราวเดียวกัน
ทั้งๆ ที่รู้ว่าบทบาทแม่บ้านเป็นงานหนัก งานเหนื่อยของลูกผู้หญิง แต่ด้วยความรักที่หล่อเลี้ยงหัวใจ จึงทำหน้าที่ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี หากรู้จักการจัดการที่เหมาะสม เสมือนการบริหารธุรกิจที่ต้องมองเกมส์ให้ขาด ดังนั้นเมื่อหมดคราบสาวออฟฟิศ ก็เตรียมรับมือกับหน้าที่ภายในบ้านสีขาว
สนามหญ้าสีเขียว ต้นไม้ใหญ่ อย่างจามจุรี พญาสัตบรรณ ประดู่ และไทร จัดเรียงลดหลั่นตามความสูง ลู่ไหวไปตามสายลมช่วยให้ใจผ่อนคลาย ยิ่งยามเย็นแดดอ่อน เสียงนกร้องสลับโทนสูงและต่ำ ยิ่งปลุกเร้าให้หายเหนื่อยจากงานอย่างปลิดทิ้ง สิ่งแรกที่ทำหลังจากมาถึงเรือนหลังงามก็คือ ดูแลความเรียบร้อยภายในบ้าน รวมทั้งสนามหญ้า ก่อนจะเบี่ยงเบนความสนใจไปที่ลูกชายที่เพิ่งกลับมาถึง
ศุกตา เป็นแม่ที่ชอบเห็นลูกวิ่งเล่นออกกำลังกายที่สนามหญ้า เธอบอกว่า จะให้ผลดีต่อสุขภาพ เมื่อเราได้เจอกับแสงแดดและสูดอากาศบริสุทธิ์ ก่อนจะให้เด็กๆ ทำการบ้านและรับประทานอาหารเย็นร่วมกัน การเอาใจใส่ลูกถือเป็นภารกิจอันดับแรกที่เธอให้ความสำคัญ รองลงไปก็คือ สามี (ทศ จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัลรีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด) ผู้ทุ่มเวลาส่วนใหญ่ให้กับงาน
"คอยดูแลพวกอาหารการกินให้ครบตามหลักโภชนาการ และคอยเตือนให้เขาออกกำลังกายบ้าง"
เพื่อให้บ้านดูมีชีวิตชีวา การมีสัตว์เลี้ยงช่วยเพิ่มความสดใสและเรื่องราวให้มากเข้าไปอีกหลายเท่า โดยเฉพาะสุนัขลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์พันธุ์แท้ พันธุ์ทางสีดำและสีฟางข้าวกว่า 11 ตัว ซึ่งล้วนแต่มีนิสัยเป็นมิตรกับผู้คน ก่อนหน้านี้เธอเป็นเจ้าของสุนัขพันธุ์ทางที่คนงานก่อสร้างแอบมาทิ้งไว้ รวมทั้งเจ้าเด่น สุนัขพันธุ์ไทยที่รับมาเลี้ยงหลังจากอ่านข่าวประกาศหาผู้รับเลี้ยงในหน้าหนังสือพิมพ์
"เจ้าเด่นตอนนี้อายุหกเดือนแล้ว เป็นสุนัขที่คอยอารักขา สามารถเฝ้าบ้านได้ ผิดกับพวกลาบราดอร์ ซึ่งดูน่ารักและเรียบร้อยเกินไป มันชอบว่ายน้ำมาก เวลาถึงกำหนดฉีดวัคซีนจะให้หมอมาที่บ้าน แต่อย่างไรก็ตาม อยากเตือนทุกคนว่า อย่าเล่นกับเขาใกล้ชิดเกินไป เพราะตัวเองเคยมีประสบการณ์ถูกลูกสุนัขกัดที่ใบหน้า เฉียดลูกตาดำเป็นแผลยาวประมาณสองเซนติเมตรมาแล้ว"
รั้วบ้านเดียวกัน ยังมีนกแก้วมาร์คอว์ ซึ่งรับช่วงเลี้ยงต่อจากเพื่อนรัก ไก่พันธุ์สวยงาม ส่วนเป็ดและห่าน ปัจจุบันนำไปเลี้ยงไว้ในไร่ต่างจังหวัดซึ่งมีหนองน้ำกว้างขวาง
"เลี้ยงไก่ไข่ เพื่อให้ลูกได้กินไข่สดทุกวัน เมื่อก่อนจะปล่อยอิสระ เวลาเห็นพวกเราเดินมา มันจะชอบวิ่งมาหา เพราะรู้ว่าเดี๋ยวก็มีผลไม้ให้กิน แต่พอลูกสุนัขเริ่มโต ก็เลยต้องทำกรงมากั้นเป็นสัดส่วน ไม่อย่างนั้นจะถูกกัด แต่ตอนนี้ไม่เลี้ยงเพิ่ม เพราะมีโรคไข้หวัดนกระบาด ก็เลยคิดว่าจะให้พวกมันอยู่กับเราไปจนตายดีกว่า เราอยู่ในสังคมเมือง ทุกวันมีแต่เรื่องวุ่นวายเรื่องงาน การจราจรแออัด ดังนั้นถ้ามีเวลาผ่อนคลาย ได้เพลิดเพลินกับธรรมชาติ ต้นไม้ สัตว์เลี้ยง ออกกำลังกายพอดี ก็ทำให้เรามีแรงทำงานต่อไป"
ท่ามกลางความสดใส มีชีวิตชีวา บ้านหลังงามจึงเต็มเปี่ยมด้วยบรรยากาศที่ผู้หญิงคนนี้ลงทุนสร้างด้วยใจ
Tweet from @vaohama
Sent from my BlackBerry® by dtac.